องค์การสหประชาชาติ
home อัลมาแนค | category องค์การระหว่างประเทศ

องค์การสหประชาชาติ

สร้างเมื่อ : วันอาทิตย์ 29 ธันวาคม 2567, 22:57:00
แก้ไขเมื่อ : วันอาทิตย์ 29 ธันวาคม 2567, 22:57:00
เข้าชม : 505

องค์การสหประชาชาติ

UN

UN

Flag
ภาพรวม:

เว็บไซต์ www.un.org

ที่ตั้งสำนักงาน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ

ก่อตั้งเมื่อ 26 ก.ค.2488 และมีผลอย่างเป็นทางการ เมื่อ 24 ต.ค.2488

วัตถุประสงค์ รักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และปัญหาด้านมนุษยธรรม

สมาชิก 193 ประเทศ (ประเทศสมาชิกล่าสุดคือ เซาท์ซูดาน เข้าร่วม เมื่อ 9 ก.ค.2554) และผู้สังเกตการณ์ 2 รัฐ (Non-member Observer States) ได้แก่ นครรัฐวาติกัน (The Holy See) และรัฐปาเลสไตน์ (State of Palestine)

เลขาธิการ นายอันโตนิอู กุแตเรซ (António Guterres) ชาวโปรตุเกส (ดำรงตำแหน่งสมัยแรก เมื่อ 1 ม.ค. 2560-31 ธ.ค.2564 และสมัยที่ 2 ใน 1 ม.ค.2565-31 ธ.ค.2569) วาระ 5 ปี

ภารกิจ สหประชาชาติ (UN) ประกอบด้วย 6 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ เลขาธิการสมัชชาสหประชาชาติ (General Assembly) คณะมนตรีความมั่นคง (Security Council) คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม (Economic and Social Council) คณะมนตรีภาวะทรัสตี (ยุติการทำงานในปัจจุบัน) ศาลยุติธรรมระหว่าง ประเทศ (International Court of Justice) และสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ (Secretariat) นอกจากนี้ ยังมีองค์กรสำคัญภายใต้สหประชาชาติ อาทิ องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) และองค์การอาหาร และการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)2

เมื่อปี 2559 UN กำหนดให้เป็นปีแห่งการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) เพื่อบรรลุความสำเร็จภายในปี 2573 รวม 17 เป้าหมาย ได้แก่ 1) ขจัดความ ยากจน 2) ขจัดความหิวโหย 3) มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี 4) การศึกษาที่เท่าเทียม 5) ความเท่าเทียม ทางเพศ 6) การจัดการน้ำและสุขาภิบาล 7) พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ 8) การจ้างงานที่มีคุณค่าและการ เติบโตทางเศรษฐกิจ 9) อุตสาหกรรม นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน 10) ลดความเหลื่อมล้ำ 11) เมืองและถิ่น ฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน 12) แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน 13) การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ 14) การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล 15) การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศ ทางบก 16) สังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก และ 17) ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงเป็นองค์กร ให้ประเทศสมาชิกได้ร่วมแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนด้านความมั่นคงและสันติภาพของโลก โดยเฉพาะปัญหา ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง การแก้ไขปัญหาผู้อพยพผลัดถิ่น และการแก้ไขปัญหาอาวุธนิวเคลียร์

ภายหลังการรับตำแหน่งของนายกุแตเรซ UN ปฏิรูปองค์กรและหน่วยงานด้านการบริหารองค์กร และงบประมาณ อีกทั้งเพิ่มบทบาทสตรีให้ได้รับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงและมีสัดส่วนมากขึ้น การบริหารองค์กร ในช่วงต่อไป UN มุ่งให้ความสำคัญที่สะท้อนความเป็นจริงและความท้าทายของโลก ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุน อย่างเข้มแข็งจากประเทศสมาชิก 9 ด้าน ได้แก่ การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน การรักษาความมั่นคงและสันติภาพระหว่างประเทศ การส่งเสริมพัฒนาการของภูมิภาคแอฟริกา การสนับสนุน และปกป้องสิทธิมนุษยชนทุกด้าน ความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงด้านมนุษยธรรม การสนับสนุนความ ยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ การปลดอาวุธ การควบคุมยาเสพติด การป้องกันอาชญากรรม การต่อสู้ การก่อการร้ายระหว่างประเทศ และความเข้มแข็งขององค์กรภายใต้ UN

ที่ผ่านมา UN บรรลุภารกิจสำคัญ อาทิ ประสานงานและให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม โดยจัดสรรงบประมาณ 22,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้หนีภัยสงคราม ภาวะอดอยาก และการข่มเหง ทารุณกว่า 90 ล้านคนใน 80 ประเทศ ร่วมทำงานกับประเทศสมาชิกไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส จากค่ามาตรฐานที่ระบุไว้ในข้อตกลงในการประชุมที่ปารีสเมื่อปี 2559 บรรลุภารกิจรักษาสันติภาพใน 4 ภูมิภาค ทั่วโลก ปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนจากปฏิญญาและสนธิสัญญา 80 ฉบับ และใช้นโยบายทางการทูต เพื่อป้องกันความขัดแย้งใน 67 ประเทศ

การเป็นภาคีพันธสัญญาระหว่างประเทศที่สำคัญของไทย ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน

- อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child-CRC)

- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Woman-CEDAW)

- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights-ICCPR)

- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economics, Social and Cultural Rights-ICESCR)

- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Racial Discrimination-CERD)

- อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือ ย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment-CAT)

- อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ (Convention on the Rights of Persons with Disabilities-CRPD)

- อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance-ICPPED)

- อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว (Convention on the Protection of the Rights of Migrant Workers and Members of their Families-CMW)

- พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Optional Protocol to the Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women) สาระสำคัญ คือ การยอมรับอำนาจของคณะกรรมการประจำอนุสัญญาฯ ในการรับและพิจารณา ข้อร้องเรียนในกรณีการละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฯ โดยผู้ร้องเรียนอาจเป็นบุคคล/กลุ่มบุคคลในนาม ผู้ถูกละเมิดสิทธิก็ได้ ทั้งนี้ ไทยให้สัตยาบันเมื่อ 14 มิ.ย.2543

- พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เรื่อง การขายเด็ก โสเภณีเด็ก และสื่อลามกที่ เกี่ยวกับเด็ก (Optional Protocol to the Convention on the Rights of the Child on the Sale of Children, Child Prostitution and Child Pornography) เป็นภาคี เมื่อ 11 ม.ค.2549

- พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เรื่อง ความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งกัน ด้วยอาวุธ (Optional Protocol to the Convention on the Rights of the Child on the Involvement of Children in Armed Conflict) เป็นภาคีเมื่อ 27 ก.พ.2549

- พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Optional Protocol to the Convention on the Rights of Persons with Disabilities-OP-CRPD) มีผลบังคับใช้กับไทยตั้งแต่ 2 ต.ค.2559

ด้านความมั่นคง

- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty-NPT)

- สนธิสัญญาห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (Comprehensive Nuclear-Test-Ban Treaty-CTBT)

- อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention-CWC)

- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ (Biological Weapons Convention-BWC)4

- อนุสัญญา UN ว่าด้วยการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Suppression of the Financing of Terrorism Convention)

- อนุสัญญาระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามการก่อการร้ายที่ใช้นิวเคลียร์ (International Convention for the Suppression of Acts of Nuclear Terrorism)

- อนุสัญญาว่าด้วยความผิดและการกระทำอื่น ๆ บางประการที่กระทำบนอากาศยาน (Convention on Offences and Certain Other Acts Committed on Board Aircraft, signed at Tokyo on 14 September 1963)

- อนุสัญญาเพื่อปราบปรามการยึดอากาศยานโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (Convention for the Suppression of Unlawful Seizure of Aircraft, signed at the Hague on 16 December 1970)

- อนุสัญญาเพื่อปราบปรามการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายต่อความปลอดภัยของการบิน พลเรือน (Convention for the Suppression of Unlawful Acts against the Safety of Civil Aviation, signed at Montreal on 23 September 1971)

- พิธีสารเพื่อการปราบปรามการกระทำรุนแรงอันมิชอบด้วยกฎหมาย ณ ท่าอากาศยาน ซึ่ง ให้บริการการบินพลเรือนระหว่างประเทศ เพิ่มเติมอนุสัญญาเพื่อปราบปรามการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อความปลอดภัยของการบินพลเรือน (Protocol on the Suppression of Unlawful Acts of Violence at Airports Serving International Civil Aviation, supplementary to the Convention for the Suppression of Unlawful Acts against the Safety of Civil Aviation, signed at Montreal on 24 February 1988)

ด้านสิ่งแวดล้อมและอื่น ๆ ที่สำคัญ อาทิ

- อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ปี 2535 (Convention on Biological Diversity)

- อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ปี 2514 (Ramsar Convention 1971)

- อนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมเคลื่อนย้ายและกำจัดของเสียอันตรายข้ามแดน (Basel Convention on the Control of Transboundary Movements of Hazardous Waste and their Disposal) คุ้มครองสุขภาพอนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากของเสียอันตรายและการป้องกันอันตรายจาก สิ่งแวดล้อมในประเทศกำลังพัฒนา

- โครงการมนุษย์และชีวมณฑล (Man and Biosphere Programme-MAB) ภายใต้องค์การ ยูเนสโก (UNESCO) อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และดำรง รักษาคุณค่าทางวัฒนธรรม ด้วยการจัดตั้งพื้นที่สงวนชีวมณฑล (Biosphere Reserve) ที่สื่อถึงความสมดุล ระหว่างมนุษย์และโลกของสิ่งมีชีวิต

- อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ (Convention Concerning the Protection of the World Cultural and Natural Heritage) ซึ่งกำหนดให้สภาระหว่าง ประเทศว่าด้วยโบราณสถานและแหล่งโบราณคดี (International Council on Monuments and Sites-ICOMOS) พิจารณาแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม และสหภาพการอนุรักษ์โลก (International Union for Conservation of Nature-IUCN) พิจารณาแหล่งมรดกทางธรรมชาติ

- อนุสัญญา UN ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) รักษาระดับความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศให้ คงที่อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

- อนุสัญญา UN ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต (United Nations Convention against Corruption-UNCAC ค.ศ.2003)

- ความตกลงปารีส (Paris Agreement) ไทยเข้าเป็นภาคีเมื่อ 21 เม.ย.2559

บทบาทของ UN

UN และ UNSC ได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องให้แสดงบทบาทในการยุติสงครามระหว่างรัสเซีย กับยูเครน เมื่อปี 2566 รวมถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาส หลังไม่สามารถออกข้อมติ หรือแถลงการณ์ในประเด็นความขัดแย้งดังกล่าวได้ เนื่องจากเผชิญกับการใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ของสมาชิก ถาวร เช่น สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย ทั้งนี้ สมาชิก UN หลายประเทศเห็นสอดคล้องว่า กลไกต่าง ๆ ของ UN อาจ ไม่สอดคล้องกับสภาวะโลกในปัจจุบันที่มีหลายขั้วอำนาจ และเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน โดยสนับสนุน ให้มีการปฏิรูปองค์กร โดยเฉพาะการเพิ่มสมาชิกถาวรและไม่ถาวรของ UNSC จากภูมิภาคแอฟริกา ละติน อเมริกา และเอเชียให้มากขึ้น รวมทั้งจำกัดสิทธิยับยั้งของสมาชิกถาวร UNSC

อย่างไรก็ดี UN ยังสามารถทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความช่วยเหลือแก่พลเรือนที่ประสบความเดือดร้อนจากสถานการณ์การสู้รบ เช่น จัดหา สถานที่พักพิง อาหาร เวชภัณฑ์ รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพจิต การให้ความช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นในด้านต่าง ๆ อาทิ เพิ่มศูนย์จัดส่งอาหารและสิ่งของที่จำเป็น รวมทั้งสนับสนุนเงินยังชีพ แม้ UN เผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึง พื้นที่ความขัดแย้ง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการสนับสนุนความช่วยเหลือ

การดำรงตำแหน่งเลขาธิการ UN สมัยที่ 2 ของนายอันโตนิอู กุแตเรซ ยังคงยึดมั่นให้ความ ช่วยเหลือประชาชน และสนับสนุนการยุติการใช้ความรุนแรง การเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย ตลอดจนความ เท่าเทียมทางเพศ พร้อมทั้งสนับสนุนการใช้ความร่วมมือระดับภูมิภาคในการแก้ไขปัญหาโดยสันติ นอกจากนี้ UN ยังเร่งดำเนินบทบาทผลักดันประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านการ ประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุ เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (net zero emissions) ภายในปี 2593 และ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ภายในปี 2573 และการ แสวงหาความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อกำหนดมาตรการกำกับดูแลเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

6

  • ความสัมพันธ์ไทย-องค์การสหประชาชาติ:

    ไทยและ UN มีความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิด โดยปี 2567 จะเป็นปีที่ไทยเข้าเป็น สมาชิก UN ครบ 79 ปี ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาสหประชาติ (United Nations General Assembly-UNGA) สมัยที่ 79 ระหว่าง 24-30 ก.ย.2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงในการอภิปรายทั่วไป (General Debate) ระบุว่า UN ยังคงเป็นองค์การสำคัญในการเสริมสร้างสันติภาพ และความมั่นคงของโลกอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ระบุด้วยว่าไทยเผชิญกับความท้าทายในระดับภูมิภาคจาก สถานการณ์ความขัดแย้งในเมียนมา อย่างไรก็ดี ไทยปรารถนาให้เมียนมาสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง และย้ำถึง การทำงานอย่างต่อเนื่องของอาเซียนเพื่อบรรลุฉันทามติ 5 ประการ สำหรับการดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อ การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ไทยนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกลไก หลักในการผลักดันในระดับท้องถิ่น ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ไทยแสดงความประสงค์ที่เข้าจะเป็น สมาชิก BRICS และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยคาดหวังว่าการเข้าร่วม กลุ่มดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ไทยมุ่งมั่นที่จะปกป้องและส่งเสริมสิทธิ มนุษยชน ผ่านการผลักดันความยุติธรรมและความเท่าเทียมในสังคม และย้ำการดำเนินนโยบายรัฐบาลโดยมี ประชาชนเป็นศูนย์กลาง